วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

"Techno ShowCase ความภูมิใจของเด็กเทคโน"

          "Techno Showcase จัดขึ้นในวันที่ 15-16 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยจำนวนผู้เข้าชมที่ลงทะเบียน พันกว่าคน แล้วที่ไม่ได้ลงทะเบียนอีกจำนวนมาก รวมๆแล้ว 2 วันที่จัด Techno Showcase น่าจะมีผู้เข้าชมประมาณ สองพันกว่าคนได้ เรียกว่าทะลุเป้าหมายอย่างมากในเรื่องจำนวนผู้เข้าชมงาน"


          Techno Showcase คืออะไร? Techno Showcase คือ งานนิทรรศการเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษาทั้งหมด ที่จัดโดย นิสิตปริญญาตรีชั้นปีที่ 4 ภาควิชาเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา ที่ทุ่มเททั้ง       เเรงกายและแรงใจตลอดระยะเวลาเตรียมงานกว่า 2 เดือน เพื่อจะจัดนิทรรศการนี้ขึ้น ( นิทรรศการTechno Showcase ที่จัดขึ้นนี้ น่าจะเป็นนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดเท่าทีภาควิชาเคยจัดมา) และความยิ่งใหญ่ก็ได้ปรากฎแก่สายตาชาวโลก ด้วยจำนวนผู้เข้าชมนิทรรศการของเรามากกว่า พันคน ที่ได้ลงทะเบียน และอีกนับพัน ไม่ได้ลงทะเบียน ที่ได้เห็นได้ชมนิทรรศการของเรา ได้รู้จักภาควิชาเทคโนโลยีทางการศึกษาได้เห็นศักยภาพของนักเทคโนฯมศว งานนี้ทำให้ คณาจารย์ของภาควิชาเทคโนฯ และนิสิตเทคโนฯ ยิ้มน่าบานกันเป็นแถว เมื่อได้เสียงตอบรับที่ดีและได้รับคำชมจากผู้ที่เข้าชมงาน นี่คือความภาคภูมใจของภาควิชา

          นายสุดยอดเองก็ภูมิใจที่ได้เป็นนิสิตเทคโนฯ และได้มีส่วนร่วมในการจัดนิทรรศการ Techno Showcase นี้ขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนจัดงานโดยรวม และในส่วนบูท ที่ได้รับผิดชอบ คือ บูทของโทรทัศน์เพื่อการศึกษา หรือ NOW YOU SEE ME  กว่าระยะเวลาในการเตรียมงานใหญ่ 2 เดือน จนถึงวันจัดนิทรรศการ 15-16 สิงหาคม 

          ในวันจัดนิทรรศการนายสุดยอดได้รับหน้าที่เป็นผู้ให้ความรู้กับผู้เข้าชมนิทรรศการบูท โทรทัศน์เพื่อการศึกษา โดยเราได้จัดสตูดิโอขึ้นที่บูทของเราเลย เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้จัดรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาของตนเอง โดยผู้เข้าชมจะได้รับความรู้และได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงๆ ว่าในการผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเขามีขั้นตอนการผลิตอย่างไร โดยได้มีการแบ่งเป็นรอบของการ workshop ซึ่งก็มีนิสิตเอกอื่นๆภายในมศว และผู้ชมภายนอก สนใจเข้าทำ workshop กับทางบูทเราจำนวนไม่น้อยเลย


          บูทโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเป็นเพียงบูทหนึ่งของงานนิทรรศการ  Techno Showcase เท่านั้นภายในงานต้องบอกท่านผู้อ่านเลยว่า อุดมไปด้วยความรู้ที่มีประโยชน์และเป็นนิทรรศการที่ไม่น่าเบื่อเลย เพราะเราได้จัดนิทรรศการนี้ภายใต้นวัตกรรมใหม่ของการจัดนิทรรศการ คือ การจัดให้เป็นนิทรรศการที่มีชีวิต 
        สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสไม่ได้เข้าร่วมงานนิทรรศการในปีนี้ ต้องแสดงความเสียใจกับท่านจริงๆครับเพราะงานได้ผ่านไปแล้ว คงต้องรอลุ้นปีพุทธศักราชหน้า..... ก็แล้วกันครับ


วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

เมืองจำลอง พัทยา สิ่งเล็กๆที่ยิ่งใหญ่

        หากคุณได้เคยไปเที่ยวพัทยา บางท่านคงเคยได้ไปเที่ยวชมที่เมืองจำลองบางแล้ว หรือบางท่านถึงแม้จะไปเที่ยวที่พัทยาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เคยแวะไปชมเมืองจำลองเลย  จพด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ วันนี้นายสุดยอดจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเมืองจำลองพัทยากัน
        "เมืองจำลอง พัทยา สิ่งเล็กๆที่ยิ่งใหญ่"  ถ้าท่านได้มีโอกาสไปเที่ยวที่นี่ จะเหมือนท่านได้ไปเที่ยวสถานที่สำคัญๆทั่วโลก เพราะที่นี่ได้ย่อส่วนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโลกและของไทยไว้มากมาย และการจำลองขึ้นมานั้นไม่ได้ทำเพียงหยาบๆแต่แม้กระทั้งรายละเอียดของสถานที่นั้นก็ทำได้คลายของจริงมาก(เพียงแต่ย่อขนาดลงมาเท่านั้น) เรียกได้ว่า ท่านมาเที่ยวที่เหมือนจำลองที่เดียว ความรู้สึกของท่านจะเหมือนการมาเที่ยวรอบโลก
       ในการมาที่เมืองจำลองของนายสุดยอดในครั้งนี้มิได้มาแต่เพียงผู้เดียว แต่พวกเรามากันเป็นทีม

        พวกเรามาถ่ายทำรายการโทรทัศน์แนะนำพิธภัณฑ์ ซึ่งเมืองจำลองที่พัทยาแห่งนี้ จัดว่าเป็นพิธภัณฑ์ประเภทหนึ่ง คือ พิธภัณฑ์กลางแจ้ง 
        หลายคนคงอยากรู้แล้วว่าในเมืองจำลองมีอะไรบ้างผมจะให้รายละเอียดคร่าวๆดังนี้
โครงการเมืองจำลอง
เมืองจำลองสยาม เริ่มต้นโครงการด้วยการค้นคว้าข้อมูลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2529 บนที่ดินขนาด 29 ไร่ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 143 เลยสี่แยกตลาดนาเกลือ ประมาณ 500 เมตร โดยแบ่งเป็น เมืองจำลองสยาม และเมืองจำลองยุโรป พื้นที่ส่วนอื่นได้จัดสรรเป็นโถงขายบัตรเข้าชม พื้นที่เช่าสำหรับร้านขายของที่ระลึก และที่จอดรถ  อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นแบบจำลองชิ้นแรก  
เมืองจำลองยุโรป (โซนมินิยุโรป) ได้แก่
                    อุทยานประวัติศาสตร์พิมา





              ทุกท่านก็พอจะรู้แล้วนะครับว่า ภายในเมืองจำลองมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ขนาดนี้เลยหรอ ช่ายครับคุ้มค่ากับการเที่ยวรอบโลกจริง ดังสโลแกนของเมืองจำลองที่ว่า "ท่องทั่วโลก เที่ยวทั่วไทย ไปเมืองจำลอง" 
              ได้รับข้อมูลที่เป็นตัวอักษรอย่างเดียวและภาพนิ่งอาจจะยังไม่พอ ไม่ถึงอารมณ์ นายสุดยอดจะให้ท่านทั้งหลาย ได้ชมรายการที่นายสุดและเพื่อนๆได้ไปถ่ายทำแนะนำพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เมืองจำลอง ได้ชมทั้งภาพและเสียงพร้อมกับบรรยากาศจริง ไม่ผิดหวังสำหรับที่นี่  "เมืองจำลอง พัทยา" 

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

เข้าถึงความรู้แบบง่ายๆๆๆ ด้วยนิทรรศการออนไลน์

     นิทรรศการ นิทรรศการ นิทรรศการ!!!!! ไปดูนิทรรศการกัน เมื่อพูดถึงคำนี้ หลายคนคงส่ายหัวและเดินหนีบอกว่า ไม่ไปหรอก หน้าเบื่อ มีแต่จัดบอร์ดและก็ตัวหนังสือเยอะๆ ไม่มีชีวิตชีวาไม่เห็นน่าสนใจเลย 
     นี่อาจจะเป็นความคิดหรือทัศนคติที่โบราณไปแล้วเพราะนิทรรศการสมัยใหม่นี้มีอะไรดีกว่าที่คุณคิด ?เรากำลังพูดถึงนิทรรศการที่มีชีวิต โดยการนำเทคโนยีและมัลติมีเดีย เช่นมีทั้งภาพเคลื่อนไหว เสียง สีสันต่าง เป็นต้น มาใช้ในการจัดนิทรรศการให้สามารถสื่อสารกับผู้ชมได้มากขึ้นและเพิ่มความสนใจ ที่สำคัญสามารถเข้าถึงผู้ชมได้สะดวกง่ายดาย ทุกที่ทุกวัน ตามสโลแกน " อยากได้ความรู้เมื่อไหร่ก็แวะมา นิทรรศการออนไลน์" 

     ใช่แล้วครับ สิ่งที่นายสุดยอดจะนำเสนอวันนี้คือนวัตกรรมใหม่ของการจัดนิทรรศการ ก็คือนิทรรศการออนไลน์ นั่นเอง แต่ก่อนอื่นเขามารู้จักความหมายและประเภทของนิทรรศการกันก่อนดีกว่า
     นิทรรศการมาจากภาษาอังกฤษ คำว่า Exhibition ซึ่งมีความหมายใกล้เคียงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Display แปลว่าการจัดแสดงข้อมูล รวมไปถึงเนื้อหาต่าง ๆ จัดทำด้วยวัสดุ สิ่งของ และอุปกรณ์ต่าง ๆ และมีการผสมผสานกิจกรรมต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การอภิปราย การบรรยาย การประกวด เพื่อเป็นการให้ความรู้กับผู้ที่เข้าร่วมนิทรรศการ โดยในการจัดนิทรรศการในแต่ละครั้งจะมีจุดมุ่งหมายในการจัดนิทรรศการที่ชัดเจน แล้วยังจำแนกประเภทต่างๆไว้มากมาย เช่น  จำแนกตามขนาดของนิทรรศการ ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่คือระดับชาติ  จำแนกตามวัตถุประสงค์ในการจัด คือ เพื่อกาศึกษา เพื่อการประชาสัมพันธ์ เพื่อการค้า จำแนกตามระยะเวลาในการจัด ได้แก่ นิทรรศการถาวร  นิทรรศการชั่วคราว  นิทรรศการเคลื่อนที่ จำแนกตามสถานที่ที่ใช้ในการจัด ได้แก่ นิทรรศการในอาคาร นิทรรศการกลางแจ้ง นิทรรศการกึ่งในอาคารกึ่งกลางแจ้ง ฯลฯ 
   ในส่วนของนิทรรศการออนไลน์ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ของการจัดนิทรรศการ นอกจากผู้ชมจะเข้าถึงได้ง่ายทุกทีทุกเวลาแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในกาจัดการน้อยกว่านิทรรศการประเภทอื่นๆ จึงทำให้นิทรรศการออนไลน์เป็นนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดในโลกกันเลยทีเดียว 



   วันนี้นายสุดยอดมีตัวอย่างมาให้เพื่อนได้ชมกันด้วยครับ ตามเว็บนี้เลยhttp://www.nsm.or.th/nsm2009/index.php?option=com_nsmexhibition&cid=129&lang=th&Itemid=86 เป็นเว็บของอพวช.หรือองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติที่รวบรวมนิทรรศการออนไลน์เกี่ยวกับการให้ความรู้วิทยาศาสตร์ไว้หลายเรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องมีความน่าสนใจมาก ดังจะยกตัวอย่างเรื่องอวกาศและการบินก็จะมีนิทรรศการให้ความรู้ เช่น เรื่องของพลศาสตร์การบิน จรวดยานยนต์ในโลกอนาคต สำรวจอาวกาศ ซึ่งนิทรรศการมีความน่าสนใจมากเพราะเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับอวกาศและการบินที่ใช้สื่อเป็นบทเรียนคอมพิวเตอร์ มีมัลติมีเดียต่างๆ และสีสันสวยงาม ทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ดีกว่าการอ่านจากตัวหนังสือธรรมดา
   เป็นไงบ้างครับเพื่อนๆ เจ๋งสุดๆเลยกับนิทรรศการออนไลน์ เพื่อนคนไหนสนใจก็ลองเค้าไปดูกันได้นะครับ ....

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

กว่าจะเป็น ENDU MAGAZING


           ENDU MAGAZING นิตยสารเพื่อการศึกษาที่สมบูรณ์ที่สุดเล่มแรกของประเทศไทยและนิตยสารเล่มแรกของนายสุดยอด กล่าวที่จะมาเป็น ENDU MAGAZING ได้ เรียกว่าผ่านกระบวนการและขั้นตอนต่างๆนานากันเลยทีเดียว  เริ่มจากการเรียนวิชา ET441"การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์"   อาจารย์ได้จับกลุ่มให้ 5คน ซึ่งทุกคนจะมีความสามารถในแต่ละด้านที่แตกต่างกัน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิ์ภาพ ซึ่งทำให้เพื่อนในกลุ่มจะมีบางคนที่ไม่เคยร่วมงานด้วย แต่นั้นก็ไม่ใช้ปัญหาหรืออุปสรรคแต่อย่างใดในการทำงาน เราใช้เวลาเพียงไม่นาน เราก็สนิทกันและร่วมงานร่วมแรงร่วมใจกันทำนิตยสารเล่มนี้ออกมาได้สำเสร็จ โดยเราจะมีวิธีการทำงานโดยแบ่งหน้าที่กันทำงาน ทุกคนจะต้องมีการเขียนคอลัมน์เป็นของตัวเองในคอลัมน์สัมภาษณ์และอีกหลายๆคอลัมน์ที่เราต้องลงพื้นที่เพื่อสัมภาษณ์และเก็บข้อมูลร่วมกันทั้งหมดภายในกลุ่ม นอกจากได้เขียนคอลัมน์ที่รับหน้าที่ของแต่ละคนแล้ว เราก็จะต้องรับหน้าที่ในส่วนที่แต่ละคนถนัดด้วย อย่างตัวของนายสุดยอดถนัดในเรื่องการถ่ายภาพ ก็จะเป็นช่างภาพประจำนิตยสารเล่มนี้ ภาพใน  ENDU MAGAZING 99% จะเป็นภาพที่นายสุดยอดถ่ายเอง แล้วก็ช่วยเพื่อนในการทำกราฟิก จากนั้นก็จะส่งให้เพื่อนที่เป็นบรรณาธิการในการจัดรูปเล่ม นิตยสารของเราเล่มนี้สิ่งท้ายสุดที่พวกทำเสร็จก่อนจะส่งโรงพิมพ์คือ นั่งคิดชื่อนิตยสารกัยอยู่นาน เนื้อหาข้างในทุกสิ่งอย่างเสร็จแล้ว กว่าจะได้ชื่อนี้ " ENDU MAGAZING " มา เป็นอะไรที่ยากเราคิดกันตั้งแต่ก่อนเริ่มที่จะทำเนื้อหาข้างในเสียอีก แต่ก็ไม่ได้ชื่อที่เหมาะสมสักที จนปิดเล่มเนื้อข้างในเสร็จสิ้นแล้วก็ยังไม่ได้ชื่อ จนในที่สุดนาทีสุดท้ายวันสุดท้ายที่จะต้องเข้าโรงพิมพ์ ชื่อนี้ก็ปรากฎขึ้นมาในความคิด ซึ่งเราแปลงมาจาก Education+Entertainment เป็น Endutainment Magazine เพราะในเนื้อหาของเรานอกจากการศึกษาแล้วยังมีการนำเนื้อหาบันเทิง หรือการศึกษาเพื่อความบันเทิง มาผสมผสานใส่ลงในนิตยสารเล่มนี้ เพื่อให้เกิดความผ่อนคลายและหลากหลายในเรื่องของเนื้อหา แต่ชื่อ  Endutainment Magazine มันยาวไป เราเลยตัดให้สั้นและง่ายต่อการจำเป็น "ENDU MAGAZING" ซึ่งผมคิดว่าเป็นชื่อที่ง่ายต่อการจำ และดูอบอุ่น (เอ็นดู) เหมือนชื่อนี้เราสื่อความหมายไปยังผู้อ่านได้ดี ดูอบอุ่น ดูแลซึ่งกันและกัน และความผูกพันระหว่างผู้จัดทำกับผู้อ่าน เอ็นดูๆดูแลกันดี ชื่อนี้จึงโดนใจพวกเราทุกคนและจึงเลือกชื่อนี้  ENDU MAGAZING มาเป็นชื่อนิตยสารเพื่อการศึกษาของพวกเรา



          การทำงานกลุ่มนิตยสารครั้งนี้ ผมรู้สึกถึงความเป็นทีมและความร่วมไม้ร่วมมือ ช่วยเหลือกันของพวกเราภายในกลุ่มเป็นอย่างมาก เรามีการลงพื้นที่สัมภาษณ์ด้วยกันและหาข้อมูลทำนิตยสารเล่มนี้ใช้เวลาร่วมกันตั้ง 2 เดือนกว่า เมื่อข้อมูลพร้อมก็นัดเจอกันทำงานด้วยกันจนดึกจนดื่น มืดค่ำไม่ได้หลับได้นอนกันเป็นสัปดาห์ จนทำให้ข้าพเจ้าก็รู้สึกผูกพันและอยากทำงานร่วมกันอีก เพราะข้าพเจ้ารู้สึกว่า ข้าพเจ้าได้ทีม ที่มีทั้งประสิทธิ์ภาพ ความสามารถ  ความร่วมไม้ร่วมมือ รู้สึกถึงความเป็นทีม เพื่อวัตถุเดียวกันคือ งานออกมามีประสิทธิ์และสัมฤทธิ์ผล ซึ่งก็แสดงให้เห็นใน "ENDU MAGAZING"


                                                 

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

สื่อสิ่งพิมพ์ที่ได้รับรางวัล

           หากจะพูดถึงสื่อสิ่งพิมพ์ในยุคปัจจุบัน จะมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก เนื่องจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันพัฒนา ฉะนั้นสิ่งพิมพ์ต่างๆจึงมีรูปแบบที่ดูน่าสนใจ ดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น และถูกใช้ในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ที่ถูกใช้ในด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ สื่อสิ่งพิมพ์ที่ถูกใช้ในด้านการให้ความรู้ หรือบางสื่อสิ่งพิมพ์ก็ถูกใช้ในหลายๆวัตถุประสงค์ ส่วนสื่อสิ่งพิมพ์ที่นายสุดยอด จะมานำเสนอวันนี้เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์บริษัท แต่มีความพิเศษคือ สื่อสิ่งพิมพ์ชิ้นนี้ ได้รับรางวัลจากงานประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติครั้งที่ 6 (ุ 6 Thai Print Awards 2011) ของสมาคมการพิมพ์ไทย ในหมวด งานพิมพ์เพื่อประชาสัมพ์บริษัทหรือผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการพิมพ์


       โดยในวันนี้เราจะมาดูในเรื่องของการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่ได้นำเสนอกันนะครับ ว่ามีการออกแบบได้น่าสนใจและดึงดูดขนาดไหน เรื่องจากสื่อสิ่งพิมพ์นี้เป็นสื่อสิ่งพิมพ์เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ของบริษัทปูนซีเมนต์ไทยหรือSCG เป็นปฏิทินแบบตั้งโต๊ะ มีการออกแบบที่สวยงาม และมีการสื่อความหมายโดยนัยได้ดี มีการดีไซด์ก่อนจะตั้งปฏิทิน เป็นเหมือนหูจับสองข้างเพื่อจะได้ง่ายต่อการถือและเมื่อพอจับตั้งแล้วส่วนหูจับก็จะกลายเป็นฐานของปฏิทิน มีการใช้ตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่ว่า Fulfill แปลว่าเติมเต็ม  ประกอบกับใช้ตัวหนังสือสี่เขียว สื่อความหมายโดยในว่า เป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ มีการเล่นตัวอักษรที่ตัว i โดยการใช้กระดาษคาดอีกที วัตถุประสงค์ เพื่อ มัดหน้าต่างๆของปฏิทินเอาไว้ และยังเป็นการเล่นตัวอักษรอีกต่างหาก ทำให้ตัว i นูนขึ้นมาเกิดเป็นจุดเด่น ไม่น่าเบื่อ ส่วนข้างในของปฏิทินก็เป็นภาพวาดเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ
      เราจะเห็นได้ว่าการออกแบบปฏิทินของบริษัทSCGนั้นเป็นการออกแบบที่สวยงามและสามารถสื่อความหมายได้ด้วย ทุกๆส่วนมีความสัมพันธ์กันและสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน ซึ่งเหมาะสมแล้วที่สื่อสิ่งพิมพ์ชิ้นนี้จะได้รับรางวัล